Keep Me Aspiring
จัดส่งฟรี เมื่อสั่งตั้งแต่ 250 บาท ขึ้นไป
คอเรคเตอร์ 3 สี พีช เขียว ม่วง

คอเรคเตอร์ 3 สี พีช เขียว ม่วง ใช้ยังไงให้หน้าไม่เทา? คู่มือเลือกสีแก้ผิวแบบมือโปร

คอเรคเตอร์ 3 สี พีช เขียว ม่วง ใช้ยังไงให้หน้าไม่เทา? คู่มือเลือกสีแก้ผิวแบบมื โปร“คอเรคเตอร์” หรือ “คอเรคเตอร์แก้สีผิว” เป็นไอเทมที่หลายคนมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ รองพื้นเรียบเนียน, รอยดำหาย, รอยแดงลด, และ ผิวดูสว่างขึ้นทันที โดยเฉพาะใครที่รู้สึกว่าแต่งหน้าแล้วสียังไม่สม่ำเสมอ ครีมคอเรคเตอร์คือคำตอบเลย ในบทความนี้จะสรุปว่า คอเรคเตอร์ 3 สี พีช เขียว และม่วง เหมาะกับผิวแบบไหน และใช้ยังไงให้ไม่โป๊ะ พร้อมเทคนิคที่ช่วยให้เมคอัพติดทนและดูธรรมชาติขึ้น

คอเรคเตอร์สีพีช ใต้ตาคล้ำ รอยดำ กระฝ้า

คีย์เวิร์ด: คอเรคเตอร์สีพีช, ปิดรอยคล้ำใต้ตา, ตัวช่วยรอยดำ

สีพีช (หรือสีส้มอ่อน) ใช้สำหรับแก้ปัญหา

  • ใต้ตาคล้ำ
  • รอยดำจากสิว
  • จุดด่างดำ
สีพีชจะช่วย “หักล้าง” สีหม่นอมม่วง – น้ำเงิน ของรอยคล้ำ ทำให้คอนซีลเลอร์ติดและปกปิดได้ดีขึ้น

เทคนิค:

  • ลงน้อย ๆ เฉพาะจุด
  • แตะด้วยนิ้วให้แนบผิว
  • ปิดทับด้วยคอนซีลเลอร์เฉดใกล้ผิว

คอเรคเตอร์สีเขียว รอยแดง สิว รอยอักเสบ

คีย์เวิร์ด: คอเรคเตอร์สีเขียว, ปิดรอยแดง, แก้สิวแดงสีเขียวเป็นคู่ตรงข้ามของสีแดง จึงเหมาะกับการแก้

  • รอยแดงจากสิว
  • ผิวแดงเฉพาะจุด
  • บริเวณข้างจมูกที่แดงง่าย

วิธีใช้:

  • แตะเฉพาะจุด ไม่ต้องทาทั่วหน้า
  • เกลี่ยให้เรียบก่อนลงรองพื้น
  • ใช้ปริมาณน้อย ๆ เพื่อไม่ให้รองพื้นดูหม่น

คอเรคเตอร์สีม่วง สำหรับผิวหมองเทา ผิวขาดความสว่าง

คีย์เวิร์ด: คอเรคเตอร์สีม่วง, แก้ผิวหมอง, ทำให้ผิวไบรท์ขึ้นสีม่วงเหมาะกับคนที่มีปัญหา ผิวเหลือง ผิวซีด หรือแต่งหน้าแล้วดูไม่สดใส โดยโทนม่วงจะช่วย “บาลานซ์” สีผิวให้ดูไบรท์ขึ้นทันที
  • ใช้ก่อนลงรองพื้น
  • เน้นบริเวณที่ดูหมอง เช่น แก้ม ข้างจมูก หน้าผาก
  • เกลี่ยบาง ๆ ไม่ต้องหนา 

สรุป: คอเรคเตอร์ 3 สีใช้อะไรกับปัญหาแบบไหน?

  • 🧡 พีช: ใต้ตาคล้ำ รอยดำ จุดด่างดำ
  • 💚 เขียว: รอยแดง สิวแดง ผิวอักเสบ
  • 💜 ม่วง: ผิวหมอง ผิวเหลือง ขาดความสดใส
การเลือก “คอเรคเตอร์ให้ถูกสี” คือเคล็ดลับที่ช่วยให้เมคอัพเนียนขึ้นแบบไม่ต้องลงรองพื้นหนาถ้าคุณกำลังมองหา “คอเรคเตอร์แก้สีผิว” ที่ใช้ง่ายและเหมาะกับผิวคนไทย แนะนำ KMA CORRECTOR COLOR MAKEUP BASE

เมคอัพเบสแก้สีผิว 3 เฉดที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะจุดได้ตรงประเภทผิว ไม่ว่าจะเป็น รอยแดง, ใต้ตาคล้ำ, หรือ ผิวหมองคล้ำ ก็ช่วยปรับโทนให้เรียบเนียนก่อนลงรองพื้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • 🧡 Peach Base ลดความคล้ำใต้ตาและรอยดำ
  • 💚 Green Base กลบรอยแดงจากสิวและผิวอักเสบ
  • 💜 Purple Base ช่วยปรับผิวหมองให้สว่างขึ้น
เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ เหมาะสำหรับใช้เป็นสเต็ปแรกของการแต่งหน้า เพื่อให้รองพื้นติดทนและสีผิวดูสม่ำเสมอทั้งวัน

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

ภาพโฆษณา รูขุมขนเนียน ใน 1 step Secret Poreless Skin Primer

KMA Secret Poreless Primer เบลอผิวสวย คุมมัน ล็อคเมคอัพ 8 ชม.

เคยไหมที่ลงทุนกับรองพื้นและแป้งอย่างดีที่สุด แต่สุดท้ายรูขุมขนเจ้าปัญหาก็ยังคงปรากฏเด่นชัดอยู่บนใบหน้า? หรือแต่งหน้าออกจากบ้านได้ไม่ถึงครึ่งวัน ผิวก็เริ่มมันเยิ้ม เมคอัพไหล และใบหน้าดูหมองคล้ำลงอย่างรวดเร็ว? หากคุณกำลังเจอปัญหาเหล่านี้ นั่นอาจไม่ใช่ความผิดของรองพื้นหรือแป้ง แต่เป็นเพราะคุณพลาด "Step แรก" ที่สำคัญที่สุดในการสร้างผิวที่สมบูรณ์แบบก่อนการแต่งหน้า นั่นคือ การใช้ไพรเมอร์ที่ถูกต้อง วันนี้ KMA Cosmetics ขอเปิดตัวพระเอกลับที่จะช่วยพลิกเกมการแต่งหน้าของคุณไปตลอดกาล ด้วย KMA Secret Poreless Skin Primer ไพรเมอร์สูตรบางเบาที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมอบผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ และเป็นกุญแจสำคัญในการล็อคความสวยให้ติดทนนานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง 1. ทำไมรูขุมขนกว้างถึงเป็นปัญหาสุดคลาสสิกของเมคอัพ? สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างและผิวมัน มักจะประสบปัญหาเหล่านี้: ผิวไม่เรียบเนียน: เมื่อลงรองพื้น เม็ดสีของรองพื้นจะไปตกตามร่องรูขุมขน ทำให้เห็นรูขุมขนชัดเจนขึ้นกว่าเดิม และผิวดูไม่สม่ำเสมอ เมคอัพไม่ติดทน: รูขุมขนกว้างมักมาพร้อมกับการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่มากเกินไป ซึ่งเป็นตัวทำละลายเมคอัพชั้นดี ทำให้เมคอัพหลุดง่ายและเป็นคราบ หน้าหมองคล้ำ: เมื่อความมันบนใบหน้าสัมผัสกับอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidize) ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสี และผิวดูหมองคล้ำลงในช่วงบ่าย การใช้รองพื้นเพียงอย่างเดียวจึงไม่สามารถแก้ไขโครงสร้างผิวที่ขรุขระได้ คุณต้องมีตัวช่วยในการปรับสภาพผิวให้ "พร้อมรับ" เมคอัพเสียก่อน 2. เปิดเผย! Secret Poreless Skin Primer นวัตกรรมผิวเนียนใน 1 Step KMA Secret Poreless Skin Primer ไม่ได้เป็นเพียงแค่ไพรเมอร์ทั่วไป แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับปัญหารูขุมขนกว้างและความมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด ด้วยการผสานเทคโนโลยีและสารบำรุงคุณภาพสูง 2.1 เทคโนโลยี Smooth Matte Elastomer: อำพรางรูขุมขนทันที หัวใจสำคัญที่ทำให้ไพรเมอร์ตัวนี้โดดเด่นคือ Smooth Matte Elastomer การเติมเต็มร่องผิว Elastomer คืออนุภาคที่มีความยืดหยุ่นสูง มีคุณสมบัติในการเติมเต็ม (Filling) ช่องว่างและร่องลึกบนผิวได้อย่างมหัศจรรย์ เมื่อทาลงไป เนื้อไพรเมอร์จะเข้าไปเติมเต็มรูขุมขนและร่องผิวให้ตื้นขึ้นทันที ทำให้ผิวดูเรียบเนียนเสมือนการ "เบลอ" ด้วยฟิลเตอร์ ผิวสวยแมตต์ เนื้อไพรเมอร์มีคุณสมบัติช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนผิวได้ดีเยี่ยม ทำให้ผิวดูแมตต์สวยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาหรือหนักหน้า ด้วยเทคโนโลยีนี้ คุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของผิวที่เรียบเนียนขึ้นในทันทีที่ทา 2.2 คุณสมบัติเด่นที่ช่วยล็อคเมคอัพนาน 8 ชั่วโมง นอกจากจะเบลอรูขุมขนแล้ว KMA Secret Poreless Skin Primer ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญต่อความติดทนของเมคอัพ: เบลอรูขุมขนให้ดูเล็กลงทันทีที่ทา: เป็นผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ช่วยให้เมคอัพติดทนนานสูงสุด 8 ชั่วโมง: สร้างเกราะบางๆ ระหว่างผิวกับรองพื้น ป้องกันความมันและเหงื่อมาทำลายเมคอัพ เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น เกลี่ยง่าย: เนื้อไพรเมอร์บางเบาและลื่น ช่วยให้การเกลี่ยรองพื้นเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้รองพื้นเรียบเนียนยิ่งขึ้น ไม่จับตัวเป็นก้อน ควบคุมความมัน: ช่วยชะลอการเกิดความมันวาวบนผิวหน้า ทำให้ผิวดูแมตต์สวยและไม่หมองคล้ำระหว่างวัน 3. ไม่ใช่แค่ปกปิด แต่ยังบำรุง: สารสกัด Magic Blossom ไพรเมอร์ที่ดีต้องไม่ทำให้ผิวแห้งหรือขาดน้ำ KMA Secret Poreless Skin Primer จึงเพิ่มคุณค่าการบำรุงผิวด้วย: สารสกัดจาก Magic Blossom: สารสกัดจากดอกไม้ที่มอบความชุ่มชื้นยาวนานให้กับผิว แม้จะเป็นไพรเมอร์สูตรคุมมัน แต่ผิวก็ยังคงนุ่มละมุน ไม่แห้งตึง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผิวไม่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น และช่วยป้องกันการเกิดสีผิวหมองคล้ำ (Oxidize) ระหว่างวัน 4. วิธีลงไพรเมอร์เบลอรูขุมขนให้เมคอัพติดทน 8 ชั่วโมง แม้ว่าไพรเมอร์จะดีเลิศแค่ไหน หากลงผิดวิธีก็อาจทำให้เมคอัพเป็นคราบได้ ลองทำตามเทคนิคการลง ไพรเมอร์เบลอรูขุมขนที่ดีที่สุด ดังนี้: 4.1 การเตรียมผิวที่เหมาะสม ก่อนลงไพรเมอร์ ต้องแน่ใจว่าได้ลงสกินแคร์และกันแดด (ตามลำดับที่ถูกต้อง) และรอให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นซึมเข้าสู่ผิวหมดแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัวของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เป็นคราบ 4.2 เทคนิคการทาเฉพาะจุด (Focus Application) ปริมาณ: ใช้ไพรเมอร์เพียงเล็กน้อย (ขนาดเท่าเมล็ดถั่ว) ก็เพียงพอสำหรับใบหน้า บริเวณที่สำคัญ: เน้นทาเฉพาะบริเวณที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง เช่น โซน T-Zone (หน้าผาก, จมูก, คาง) และแก้มด้านใน วิธีทา: ใช้นิ้วมือหรือแปรงเกลี่ยเบาๆ ด้วยการ "กด" หรือ "ตบ" เข้าไปในรูขุมขน แทนการ "ลาก" การกดจะช่วยให้เนื้อไพรเมอร์เติมเต็มร่องผิวได้ดียิ่งขึ้น 4.3 รอการเซ็ตตัว หลังจากลงไพรเมอร์แล้ว ควรรอให้ไพรเมอร์เซ็ตตัวกับผิวประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที ก่อนลงรองพื้น วิธีนี้จะช่วยให้ไพรเมอร์สร้างชั้นฟิล์มที่เรียบเนียนและพร้อมที่จะ "ล็อค" รองพื้นไว้บนผิว 5. KMA Secret Poreless Primer: ไพรเมอร์เนื้อแมตต์สำหรับผิวคุณ KMA Secret Poreless Skin Primer เป็นมากกว่าแค่การปรับสภาพผิว แต่เป็นการยกระดับการแต่งหน้าของคุณให้ดูเป็นมืออาชีพ หากคุณกำลังมองหา ไพรเมอร์ KMA คุมมัน ผิวเรียบเนียน ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับความร้อนและความชื้น ไพรเมอร์ตัวนี้คือคำตอบที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าผิวจะเนียนสวย ดูแมตต์ และเมคอัพจะติดทนนานสูงสุด 8 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรูขุมขนกว้างหรือหน้าหมองคล้ำอีกต่อไป ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และคุณภาพที่เทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ KMA Secret Poreless Skin Primer จึงเป็นไอเทมที่ควรมีติดกระเป๋าสำหรับทุกคนที่ต้องการผิวสวยเนียนไร้ที่ติในขั้นตอนแรกของการแต่งหน้า สรุป KMA Secret Poreless Skin Primer คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการลุคผิวสวยแมตต์ไร้รูขุมขน ด้วยเทคโนโลยี Smooth Matte Elastomer ที่เติมเต็มผิว และสารสกัด Magic Blossom ที่ให้ความชุ่มชื้นและป้องกันความหมองคล้ำ การลงทุนกับไพรเมอร์คุณภาพดีจาก KMA คือการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อผิวสวยเนียนและการล็อคเมคอัพที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มต้น อย่าปล่อยให้รูขุมขนและหน้ามันเป็นอุปสรรคต่อความมั่นใจของคุณ! เริ่มต้นผิวสวยไร้ที่ติใน 1 Step ได้แล้ววันนี้ พร้อมเริ่มต้นลุคผิวสวยเนียนไร้รูขุมขนแล้วหรือยัง? คลิกเพื่อสั่งซื้อ KMA Secret Poreless Skin Primer ได้เลย!

อ่านต่อ >>
โฆษณา KMA เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าช่วงหน้าหนาว เน้นงานผิวโกลว์สุขภาพดี พร้อมสินค้า KMA Dreamy Glow Cushion, KMA Lit Glit Blushและ KMA Sunscreen SPF 50

แต่งหน้าในช่วงหน้าหนาว ต้องเลือกเครื่องสำอางแบบไหน และควรระวังอะไรบ้าง?

เมื่ออากาศเริ่มเย็นและลมแห้งขึ้น ปัญหาผิวต่าง ๆ จะตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นผิวลอก รองพื้นไม่ติด แป้งเป็นคราบ หรือเมคอัพดรอประหว่างวัน การ “เลือกเครื่องสำอางให้เหมาะกับฤดูหนาว” จึงเป็นเคล็ดลับสำคัญที่หลายคนไม่รู้ บทความนี้จะพาคุณดู วิธีแต่งหน้าในช่วงหน้าหนาวให้ติดทน ฉ่ำสวย ไม่เป็นคราบ พร้อมคำแนะนำเครื่องสำอางที่ควรเลือกและสิ่งที่ต้องระวัง! ทำไมแต่งหน้าหน้าหนาวถึงติดยาก? ช่วงหน้าหนาว ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นเร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดปัญหา ผิวแห้งลอกเป็นขุย รองพื้นเกาะไม่สม่ำเสมอ เมคอัพเป็นคราบแตก ๆ สีแก้มติดยาก ผิวดูหมองเพราะความแห้ง ดังนั้นพื้นฐานสำคัญคือ “เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ก่อนลงเมคอัพทุกครั้ง” 1. การเตรียมผิว: ขั้นตอนสำคัญที่สุดของการแต่งหน้าในฤดูหนาว เลือกสกินแคร์เนื้อครีมมากกว่าเนื้อเจลสกินแคร์เนื้อเจลจะระเหยเร็วเกินไปในอากาศเย็น ควรเปลี่ยนเป็น ครีมเติมน้ำ มอยส์เจอร์ครีมล็อกความชุ่มชื้น เซรั่มไฮยาลูรอนเข้มข้น อย่าลืม “ไพรเมอร์บำรุงผิว” ไพรเมอร์สำหรับหน้าหนาวควรมีคุณสมบัติ: เติมความชุ่มชื้น ช่วยให้รองพื้นติดผิว ทำให้ผิวเนียนขึ้นก่อนแต่ง 2. เลือกรองพื้นแบบไหนสำหรับหน้าหนาว? เน้นรองพื้นสูตรชุ่มชื้น (Hydrating / Dewy) รองพื้นที่มีส่วนผสมของการบำรุง อย่าง Hyaluronic Acid Squalane Vitamin Eจะช่วยให้ผิวไม่แตกเป็นรอย หากผิวแห้งมาก ฉีดน้ำแร่ ใส่ฟองน้ำหมาดๆ ช่วยให้รองพื้นเนียนและไม่เป็นคราบ และเพิ่มความชุ่มชื่น 3. บลัชออนและไฮไลท์ เลือกบลัช ไฮไลท์ เนื้อครีม / ลิควิด เพราะติดทนบนผิวแห้งดีกว่าแบบฝุ่น ให้ผิว “ฉ่ำสุขภาพดี” เหมือนผิวใสตามธรรมชาติ 4. ลิปสติก จุดที่พังง่ายที่สุดในหน้าหนาว บำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่น ก่อนลงลิป และเลือกสูตรชุ่มชื้นเป็นหลัก เป็นทริคช่วยให้ลิปเนื้อครีมเกลี่ยง่ายและไม่ตกร่อง เน้นเลือกใช้ ลิปบาล์ม / ลิปบาล์มทินต์ /เหมาะในช่วงนี้มาก 5. แป้งและการเซ็ตเมคอัพที่ควรระวัง ใช้แป้งโปร่งแสงบางที่สุด อย่าลงแป้งเยอะ เพราะอากาศแห้ง + แป้งจะทำให้รองพื้นเป็นขุยทันที ใช้ Setting Spray แบบให้ความชุ่มชื้น ช่วยล็อกเมคอัพและทำให้ฟินิชดูกลืนเป็นผิวมากขึ้น สรุป: เคล็ดลับแต่งหน้าหน้าหนาวให้สวยติดทน เติมความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนแต่ง แนะนำ KMA Ever Bright Super Serum , KMA Soothing Facial Lock Mist ,KMA Sun Skin High Protection Milk SPFS0+ PA++++ เลือกรองพื้นสูตรให้ความชุ่มชื่น แนะนำ KMA SHEER SOFT SKIN , Dreamy Glow Cushion SPF50+ PA+++,KMA Nourishes Foundation เลือกบลัชครีมหรือเนื้อลิควิด เพิ่มความติดทน แนะนำ KMA Lit Glit Liquid Blush, KMA Blush Bomb งดแป้งหนา และใช้สเปรย์เซ็ตผิว แนะนำ KMA Transparent Loose Powder, KMA Soothing Facial Lock Mist เน้นลิปที่ให้ความชุ่มชื้น KMA Juicy Lush Tint Balm การแต่งหน้าในฤดูหนาวไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเลือกเครื่องสำอางถูกสูตรและเข้าใจผิวของตัวเอง ก็จะได้ลุคที่สวย ฉ่ำ และดูสุขภาพดีตลอดทั้งวัน 

อ่านต่อ >>
ภาพผลิตภัณฑ์ KMA Base Melting Balm Cleanser for base makeup and sunscreen ลอยอยู่เหนือเนื้อครีม พร้อมข้อความ: 5 เหตุผล ทำไมต้องใช้ คลีนซิ่งบาล์ม?

5 เหตุผล ทำไมต้องใช้คลีนซิ่งบาล์ม? ตัวช่วยล้างเมคอัพที่สายแต่งหน้าต้องมี

คลีนซิ่งบาล์ม (Cleansing Balm) กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Y-Z ที่ต้องการสกินแคร์ที่ สะอาด อ่อนโยน ใช้ง่าย และเห็นผลจริง แต่คำถามคือ… ทำไมคลีนซิ่งบาล์มถึงดีกว่าคลีนซิ่งแบบอื่น? และ เหมาะกับผิวแบบไหน? บทความนี้จะพาไปดู 5 เหตุผลที่ทำให้คลีนซิ่งบาล์มกลายเป็น Must-Have สำหรับคนที่แต่งหน้า หรือทากันแดดทุกวัน รวมถึงแนะนำคลีนซิ่งบาล์มที่ตอบโจทย์คนผิวแพ้ง่ายแบบสุด ๆ 1. คลีนซิ่งบาล์มละลายเมคอัพหนักได้ดีกว่าจริง หนึ่งในเหตุผลอันดับต้น ๆ ที่หลายคนเปลี่ยนมาใช้ คลีนซิ่งบาล์ม เพราะเนื้อบาล์มมี “น้ำมัน” ที่เข้ากับโครงสร้างของเมคอัพได้ดี จึงสามารถดึงคราบเครื่องสำอางออกได้เร็วกว่าแบบอื่น จุดเด่นที่เหนือกว่า: ละลายรองพื้นกันน้ำและเมคอัพแน่นได้ไว ลิปแมตต์ติดทนก็ออกง่าย ไม่ต้องถูแรง ไม่ทำร้ายผิว ลดการใช้สำลี ช่วยลดการเสียดสีบนผิว เหมาะมากสำหรับคนที่แต่งหน้าหนัก หรือใช้เมคอัพสูตร Long-wear เป็นประจำ 2. อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย ไม่ทำร้าย Skin Barrier หลายคนอาจไม่รู้ว่า สกินแบร์ริเออร์ (Skin Barrier) คือด่านสำคัญที่ทำให้ผิวแข็งแรง และคลีนซิ่งบางชนิดทำให้ผิวพังได้ง่ายเพราะมีแอลกอฮอล์หรือสารทำความสะอาดแรง ๆ แต่ คลีนซิ่งบาล์มส่วนใหญ่ไม่มีแอลกอฮอล์ และมีสูตรที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว จุดเด่นด้านความอ่อนโยน: ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ลดการระคายเคือง ช่วยถนอม Skin Barrier ลดโอกาสเกิดสิวอุดตันระยะยาว เหมาะกับผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ผิวอักเสบง่าย และคนที่ล้างหน้าบ่อย 3. เติมความชุ่มชื้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการล้างหน้า นี่คือข้อดีที่หลายคนไม่รู้ คลีนซิ่งบาล์มล้างแล้วผิวจะนุ่ม ชุ่ม ไม่แห้งตึง เหมือนมีมอยส์เจอร์เคลือบผิวไว้ทันที เมื่อเทียบกับคลีนซิ่งวอเตอร์หรือโฟมล้างหน้า ไม่ดึงน้ำออกจากผิว ลดความรู้สึกแห้งหลังล้าง เหมาะกับผิวแห้งและผิวขาดน้ำมาก ๆ สำหรับสายแต่งหน้าทุกวัน บาล์มคือ “สเต็ปกู้ผิว” ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวไปในตัว 4. เหมาะมากสำหรับคนที่ทำ Double Cleansing สำหรับคนที่ทากันแดดหรือแต่งหน้าทุกวัน ขั้นตอน Double Cleansing ถือว่าสำคัญมาก เพราะการล้างหน้า 1 ครั้งมักไม่พอ การล้าง 2 ขั้นตอนควรเป็นแบบนี้: คลีนซิ่งบาล์ม – ดึงเมคอัพ ครีมกันแดด และความมัน โฟมล้างหน้า – เคลียร์สิ่งสกปรกที่เหลือบนผิวและรูขุมขน การล้างแบบนี้ช่วยลดการอุดตันได้ดีมาก ทำให้สิวขึ้นน้อยลงและผิวสะอาดลึกขึ้นอย่างเห็นผล 5. ใช้ง่าย พกสะดวก ไม่หกไม่เลอะเหมือนคลีนซิ่งออยล์ ข้อดีของ Cleansing Balm ที่ทุกคนรักคือ “ใช้ง่ายและไม่เลอะ” เพราะเนื้อบาล์มเป็นของแข็งในกระปุก พกเดินทางได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหก วิธีใช้ก็ง่ายมาก แต้มลงบนผิวแห้ง นวดจนเนื้อบาล์มละลายเป็นน้ำมัน เติมน้ำจนเป็นเนื้อน้ำนม ล้างออกได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความคลีน + สะดวก + ไม่วุ่นวาย แล้วคลีนซิ่งบาล์มแบบไหนที่ควรใช้? ถ้าคุณกำลังมองหา คลีนซิ่งบาล์มล้างเมคอัพเกลี้ยง อ่อนโยน และเหมาะสำหรับผิวทุกแบบ ขอแนะนำตัวนี้ KMA BASE Melting Balm KMA BASE Melting Balm จุดเด่นที่ทำให้หลายคนยกให้เป็น “บาล์มล้างหน้าที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง” ละลายเมคอัพกันน้ำได้เร็วมาก รองพื้นแน่น ลิปติดทน มาสคาร่ากันน้ำ ก็ล้างออกง่าย ไม่ต้องถูแรง ผิวนุ่ม ชุ่ม หลังล้าง ไม่แห้ง ไม่ตึง มีส่วนผสมที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูฟูทันทีหลังใช้ อ่อนโยนกับผิวแพ้ง่าย ปราศจาก ALCOHOL • PARABEN • MINERAL OIL • SILICONE • COLORANT ไม่ทำลาย Skin Barrier ล้างออกง่าย ไม่แสบตา เนื้อบาล์มแตกตัวเป็น “น้ำนม” เมื่อโดนน้ำ ทำให้ล้างเมคอัพได้ล้ำลึกโดยไม่ทิ้งคราบมัน อัดแน่นด้วยสารสกัดปลอบประโลมผิว สารสกัดพืชสีชมพู → ชุ่มชื้น นุ่มเด้ง ว่านหางจระเข้ → ลดการระคายเคือง น้ำมันอัลมอนด์ → ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย น้ำมันเมล็ดราสเบอร์รี่ → ผิวเปล่งปลั่ง สารสกัดชาเขียว → ต้านริ้วรอยและปลอบประโลม เหมาะกับใคร? สายแต่งหน้าทุกวัน คนผิวแพ้ง่าย คนที่ผิวแห้ง/ขาดน้ำ คนที่อยากล้างหน้าแบบสะอาดลึก แต่ไม่ทำร้ายผิว คนที่ต้องการคลีนซิ่งบาล์มที่ “ไม่แสบตาและไม่เหนอะ” สรุป: ทำไม “คลีนซิ่งบาล์ม” ควรอยู่ในทุกโต๊ะเครื่องแป้ง? เพราะมันคือคลีนซิ่งที่ สะอาดที่สุด อ่อนโยนที่สุด และช่วยดูแลผิวได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก โดยเฉพาะคนที่แต่งหน้าหรือทากันแดดทุกวัน การใช้ Cleansing Balm คือจุดเริ่มต้นของผิวที่ดีในระยะยาว และถ้าคุณกำลังหาตัวที่ ล้างสะอาด + ผิวนุ่ม + ใช้ง่าย + ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่ายKMA BASE Melting Balm คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

อ่านต่อ >>
Message
Line OA