สินค้าเข้าใหม่
![[NEW] KMA SOFT TOUCH MATTE LIPS EX - KMA](http://kmacosme.com/cdn/shop/files/web-Soft-Touch-Matte-Lips.jpg?v=1758181224&width=1920)
![[NEW] KMA SOFT TOUCH MATTE LIPS EX - KMA](http://kmacosme.com/cdn/shop/files/SOFT-TOUCH-MATTE-LIPS-EX.jpg?v=1758181224&width=1920)
KMA ซอฟต์ ทัช แมทท์ ลิป เอ็กซ์
![[NEW] KMA MAKE IT DOLLY - KMA](http://kmacosme.com/cdn/shop/files/web-MAKE-IT-DOLLY.jpg?v=1758179846&width=1920)
![[NEW] KMA MAKE IT DOLLY - KMA](http://kmacosme.com/cdn/shop/files/KMA-Make-It-Dolly.jpg?v=1758179846&width=1920)
KMA ปากกาดอลลี่อาย
KMA กันแดดน้ำนม ซัน สกิน ไฮ โพรเทคชั่น มิลค์ เอสพีเอฟ 50+ PA++++ 40 ml.
KMA ซูธธิง เฟเชียล ล็อค มิสต์ มิสต์ปลอบประโลมผิว พร้อมล็อคเมคอัพในขวดเดียว
KMA เพอร์เฟกต์ แมช พาเลตต์
KMA ชุดแปรงแต่งหน้า 12 ชิ้น
KMA สมูท นาโน พัฟ เนื้อนุ่มกำมะหยี่ เพิ่มระดับการปกปิดได้เพียงกดย้ำบริเวณที่ต้องการ [ 1ซองมี3ชิ้น ]
ไอเทมหลัก
พิมพ์: รองพื้น
KMA รองพื้นปกปิด เนื้อบางเบา Water Resist Liquid Foundation
KMA Water Resist Liquid Foundation รองพื้นเนื้อลิควิดสูตรควบคุมความมันยาวนานถึง 12 ชั่วโมง เนื้อบางเบาแต่ปกปิดสูง กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่เป็นคราบ ออกแบบมาเพื่อผิวคนไทย ให้ผิวคุณสวยไร้ที่ติได้ตลอดวัน
คุณสมบัติเด่น
- คุมมัน 12 ชั่วโมง ติดทนตลอดวัน
- ปกปิดเนียนกริบ รอยสิว จุดด่างดำ และรอยคล้ำ
- กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง
- เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย สบายผิว
- ปกป้องผิวจากแดด ด้วย SPF 30
พิมพ์: รองพื้น
KMA ดรีมมี่ โกลว์ คุชชั่น
คุชชั่นที่มอบการปกปิดระดับกลางและควบคุมความมัน ให้ผิวดูเรียบเนียน สดชื่นตลอดวัน ด้วยเทคโนโลยี Zero Grafit มอบความรู้สึกบางเบาพร้อมเบลอผิวอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม SPF 50+ PA +++
พิมพ์: ครีมกันแดด
KMA กันแดดน้ำนม ซัน สกิน ไฮ โพรเทคชั่น มิลค์ เอสพีเอฟ 50+ PA++++ 40 ml.
ครีมกันแดดเนื้อไฮบริดมิลค์ SPF 50+ PA++++ ผสานคุณสมบัติเมคอัพและคุณสมบัติกันน้ำ มอบการปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติกันน้ำได้ดีเยี่ยม ยาวนานถึง 80 นาที เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับทุกกิจกรรม ทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยไม่รบกวนการแต่งหน้า
พิมพ์: รองพื้น
KMA รองพื้นเนื้อบางเบา SHEER SOFT SKIN
รองพื้นปกปิดริ้วรอยพร้อมสารป้องกันแสงแดด มอบการปกปิดอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อผิวสุขภาพดีเปล่งประกาย ควบคุมความมันยาวนาน 12 ชั่วโมง พร้อมมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกด้วย Botanical Avocado Surface Treatment, Rosa Centifolia Flower และ Argan Oil ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง 5 ชนิด ได้แก่ ซิลิโคน พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำมันแร่ และผ่านการทดสอบ Non-Comedogenic Tested เพื่อให้มั่นใจว่าผิวของคุณจะเรียบเนียน ปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายด้วย SPF 50+ PA++++ เพื่อการปกป้องสูงสุด
พิมพ์:
KMA ไพรเมอร์เนื้อบางเบา (N)
ไพรเมอร์เนื้อบางเบาที่ปรับผิวให้เรียบเนียน เบลอรูขุมขน และเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ เพื่อเอฟเฟกต์เบลอผิวแบบนุ่มนวล
ผสาน Smooth Matte Elastomer เพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบแมตต์ไร้ที่ติ และสารสกัดจาก Magic Blossom เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
ประโยชน์หลัก:
• ลดขนาดรูขุมขนและปรับผิวให้เรียบเนียน
• ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานถึง 8 ชั่วโมง
• เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม เกลี่ยรองพื้นได้ง่าย
เฉดสีที่หลากหลาย พร้อมการบำรุงผิวในหนึ่งเดียว
ครบทุกเฉดเพื่อทุกโทนผิว พร้อมสารบำรุงที่ช่วยให้ผิวแลดูเปล่งประกายและสุขภาพดี
Maximum UV protection anywhere, anytime
Suit even sensitive and reactive skin with dermatology tested.
KMA กันแดดน้ำนม ซัน สกิน ไฮ โพรเทคชั่น มิลค์ เอสพีเอฟ 50+ PA++++ 40 ml.
KMA กันแดด เนื้อครีมเจล ให้ความรู้สึกเบาสบายผิว SPF50+ PA++++ 30 ml.
KMA ครีมกันแดด UV Watery Protection SPF 50+ PA++++ 25 ml.
KMA กันแดดซันชิลด์ ไบร์ท ไฮยา เจล ขนาด 7 มล.
Color is for everyone. Style is for you.
KMA Point Makeup celebrates every shade, every story, and every style.Because beauty has no boundaries—only the power to inspire.
#KeepMeAspiring
บอกเล่าความเป็นคุณอย่างมั่นใจ
ในโลกความงามที่ไร้กรอบ
ในโลกความงามที่ไร้กรอบ
KMA กันแดดซันชิลด์ ไบร์ท ไฮยา เจล ขนาด 7 มล.
KMA ไพรเมอร์เบลอรูขุมขน 15 ml. (ขนาดพกพา)
KMA แปรงรองพื้น ขนาดพกพา
บิวตี้เลิฟเวอร์บอกต่อ
ล*****ร
“ดีมากค่ะ เพิ่งลองใช้ครั้งแรก แปรงเกลี่ยง่าย เนียนกริบ ไม่มีรอยเลย ใช้ฟองน้ำแตะเบาๆ ก็ทำให้สีสวยเนียนกริบยิ่งขึ้น”
ส*****ด
นี่คือเนื้อสัมผัสที่ฉันตามหามาตลอด เนื้อบางเบา เบลอผิว และสามารถเพิ่มเฉดสีได้ สวอชอาจจะดูเข้มไปนิด แต่พอทาแล้วซึมเข้าผิวได้เนียนกริบ ผิวฉันมัน รูขุมขนกว้าง ถึงแม้จะควบคุมความมันได้ไม่เต็มที่ แต่มันก็ช่วยเบลอรูขุมขนและสะท้อนแสงได้อย่างสวยงาม ผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติมาก!”
บี*****เอ
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้ และฉันก็กำลังมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากที่สามารถใช้ได้แม้ในวันที่ไม่อยากแต่งหน้าจัดเต็ม ในที่สุดฉันก็เจอมันแล้ว ชอบมาก! สีน่ารักมากและดูเป็นธรรมชาติบนริมฝีปาก เนื้อสัมผัสเบาสบาย ไม่หนักปากเลย
ติดตามเรา
เคล็ดลับความงาม
Retinol: A Deep Dive into Skin Science! Why This Ingredient is the Ultimate for Wrinkle Reduction
Retinol is widely hailed as the "Gold Standard" ingredient in the skincare industry because it is scientifically proven to be highly effective at tackling wrinkles, acne, and dark spots. However, before rushing to purchase a product, you must understand its mechanism and the correct application methods, based on Beauty Science principles, to achieve great skin without irritation. Retinol is widely hailed as the "Gold Standard" ingredient in the skincare industry because it is scientifically proven to be highly effective at tackling wrinkles, acne, and dark spots. However, before rushing to purchase a product, you must understand its mechanism and the correct application methods, based on Beauty Science principles, to achieve great skin without irritation. 1. What is Retinol? (The Science of Retinoids) Retinol belongs to a family of compounds called Retinoids, which are derivatives of Vitamin A. Mechanism of Action: When applied to the skin, Retinol must undergo several chemical conversions within the skin cells to become its truly active form: Retinoic Acid. This is the compound that acts directly on skin cells. Because Retinol requires multiple conversions, it is milder than prescription-strength Retinoic Acid (like Retin-A), but it takes longer to show visible results. 2. How Does Retinol Work on the Skin? The Retinoic Acid resulting from Retinol's conversion sends signals directly to skin cells to stimulate and regulate three key functions: Stimulates Collagen Production: Retinol stimulates Fibroblasts (skin cells) to produce more Collagen and Elastin. This improves skin elasticity, density, and visibly reduces fine lines and deep wrinkles. Accelerates Cell Turnover Rate: It speeds up the cycle of shedding dead skin cells to reveal newer, smoother, and brighter skin underneath. This is why it helps with acne, pores, and dullness. Regulates Melanin Production: It helps inhibit the overproduction of melanin pigment, which aids in fading dark spots, melasma, freckles, and acne scars. 3. The Correct Way to Use Retinol (Beginner's Guide to Avoid Irritation) Because Retinol has potent exfoliating properties, incorrect use can lead to dryness, peeling, redness, and irritation (known as Purging). The scientifically correct method for application is: 3.1 Start Low and Slow Concentration: Beginners should start with the lowest concentration (e.g., 0.1% – 0.3%) and gradually increase the strength once the skin has fully adjusted. Frequency: Apply only 2-3 times per week for the first 1-2 months to give your skin time to acclimate. Do not use it every night immediately. 3.2 Nighttime Only Reason: Most Vitamin A derivatives are photosensitive (sensitive to sunlight). Light causes the compound to break down and reduces its efficacy. Therefore, Retinol should only be used before bed. 3.3 The "Sandwich Technique" If your skin is prone to irritation, use this technique to buffer the strength of the active ingredient: Apply a light layer of Moisturizer first. Apply a pea-sized amount of Retinol. Finish with another layer of Moisturizer to lock in hydration and minimize dryness or peeling. 3.4 Ingredients to Avoid Combining (The No-No Combo) AHA and BHA (Exfoliating Acids): Using these together will cause severe over-exfoliation, leading to extreme irritation and heightened sun sensitivity. Vitamin C (Ascorbic Acid): While beneficial, using Retinol and Vitamin C in the same routine can cause significant irritation. It is recommended to use Vitamin C in the morning and Retinol at night. 4. The Golden Rule for Morning: Sunscreen! When using Retinol at night, your skin becomes highly sensitive to sunlight. Therefore, you must never skip applying sunscreen with an SPF of 30 or higher every morning, using a sufficient amount. Without proper sun protection, using Retinol will ultimately cause more harm than good to your skin.
อ่านเพิ่มเติม
เคล็ดลับเลือกสีรองพื้นให้เป๊ะ! รู้จัก "อันเดอร์โทน" (Undertone) ผิว ไม่วอก ไม่ดรอป (ฉบับมือใหม่)
การเลือกรองพื้นผิดเบอร์คือฝันร้ายของสาวๆ! ปัญหาหน้าลอย คอดำ หรือหน้าหมองระหว่างวัน มักเกิดจากการมองข้ามสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือ "อันเดอร์โทน" (Undertone) ของผิว แม้ผิวจะขาวหรือคล้ำ แต่สีผิวแท้จริงที่อยู่ข้างใต้ต่างหากที่กำหนดว่ารองพื้นเบอร์ไหนจะเข้ากับคุณที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับอันเดอร์โทน พร้อมเทคนิคง่ายๆ ในการเลือกสีรองพื้นให้เป๊ะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อผิดอีกต่อไป! 1. ทำความรู้จัก 3 อันเดอร์โทนหลักของผิว (The 3 Undertones) อันเดอร์โทนคือโทนสีที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังกำพร้า ซึ่งไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแม้คุณจะผิวคล้ำขึ้นหรือขาวลงก็ตาม แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้ Cool (โทนเย็น): ผิวมีพื้นสีอม ชมพู หรือ อมแดง Warm (โทนอุ่น): ผิวมีพื้นสีอม เหลือง หรือ ทอง Neutral (โทนกลาง): ผิวมีพื้นสีที่ สมดุล ระหว่างชมพูและเหลือง ไม่เด่นไปทางใดทางหนึ่ง 2. 3 วิธีทดสอบหาอันเดอร์โทนผิวด้วยตัวเอง (Easy Undertone Test) คุณสามารถตรวจสอบอันเดอร์โทนของตัวเองได้ง่าย ๆ เพียงมองหาในบริเวณที่ผิวไม่โดนแดดมากนัก เช่น ข้อมือ หรือ คอ 2.1 วิธีดูสีเส้นเลือดที่ข้อมือ (The Vein Test) Cool Undertone: เส้นเลือดที่ข้อมือจะมีสีออกไปทาง สีน้ำเงิน/สีม่วง Warm Undertone: เส้นเลือดที่ข้อมือจะมีสีออกไปทาง สีเขียว/สีเขียวอมเหลือง Neutral Undertone: เส้นเลือดมีทั้งสีน้ำเงินและสีเขียว หรือแยกได้ยาก 2.2 วิธีดูปฏิกิริยาต่อแสงแดด (The Sun Test) Cool Undertone: ผิวจะ ไหม้แดด หรือ แดงง่าย แต่ไม่ค่อยคล้ำลง Warm Undertone: ผิวจะ คล้ำ หรือ แทนง่าย ไม่ค่อยไหม้แดด Neutral Undertone: ผิวอาจไหม้เล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ คล้ำลง 2.3 วิธีดูเครื่องประดับที่ใส่แล้วสวย (The Jewelry Test) Cool Undertone: ใส่เครื่องประดับ สีเงิน (Silver) แล้วขับผิว ดูผ่องกว่า Warm Undertone: ใส่เครื่องประดับ สีทอง (Gold) แล้วขับผิว ดูสวยกว่า Neutral Undertone: ใส่ได้สวยทั้งสีเงินและสีทอง 3. เทคนิคเลือกสีรองพื้นตามอันเดอร์โทน (Matching Foundation) เมื่อรู้แล้วว่าอันเดอร์โทนของคุณคืออะไร การเลือกเบอร์รองพื้นก็จะง่ายขึ้นมาก! สำหรับ Cool Undertone (โทนเย็น) ควรเลือกรองพื้นสีที่อม ชมพู หรือมีคำว่า Rose, Pink, Cool รหัสที่มักมีตัวอักษร C (เช่น C1) สำหรับ Warm Undertone (โทนอุ่น) ควรเลือกรองพื้นสีที่อม เหลือง หรือมีคำว่า Golden, Beige, Warm รหัสที่มักมีตัวอักษร W หรือ Y (เช่น W3) สำหรับ Neutral Undertone (โทนกลาง) ควรเลือกรองพื้นสีที่อยู่ตรงกลาง หรือมีคำว่า Neutral, True Match รหัสที่มักมีตัวอักษร N (เช่น N2) เคล็ดลับสำคัญในการทดลองสี (Swatching Tip) เมื่อไปทดลองรองพื้นที่เคาน์เตอร์ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อความเป๊ะ จุดทดลอง: อย่าทดลองบนหลังมือ! ให้ลองปาดรองพื้น 2-3 เฉดสี บริเวณกรามต่อลงมาที่คอ (Jawline to Neck) รอเซ็ตตัว: รองพื้นหลายยี่ห้อจะมีการ "Oxidize" (สีเข้มขึ้นเมื่อโดนอากาศ) ให้ปาดทิ้งไว้ 5-10 นาที แสงธรรมชาติ: ออกไปดูสีใน แสงธรรมชาติ (หน้าประตูร้าน หรือริมหน้าต่าง) สีที่กลืนไปกับผิวบริเวณกรามคือสีที่ถูกต้องที่สุด เพราะจะทำให้หน้าและคอไม่แยกสีกัน การเข้าใจ อันเดอร์โทนผิว (Undertone) คือกุญแจสำคัญสู่การแต่งหน้าที่ไร้ที่ติ และนี่คือความรู้พื้นฐานที่สาวๆ ที่รักการแต่งหน้าทุกคนควรทราบ! ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ในการเลือกซื้อรองพื้นครั้งต่อไป รับรองว่าคุณจะได้สีที่สวยเป๊ะ เข้ากับผิวแน่นอนค่ะ
อ่านเพิ่มเติม